ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะพลังงานงานสะอาดมากขึ้น โดยเริ่มจากยานพาหนะเล็ก ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพราะนอกจากจะไม่สร้างมลภาวะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว พลังงานไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมาก อีกทั้งยังดูแลรักษาได้ง่ายกว่าด้วย

ในบทความนี้ AJ EV BIKE จะพาคุณไปดูวิธีการเลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีให้เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมแนะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพสูง สามารถขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว รองรับทั้งการใช้งานทั่วไปอย่างการเป็นรถจ่ายตลาด หรือขับขี่ไปทำงาน ใครที่มองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาเอื้อมถึง ห้ามพลาด!

เลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี?

จากการที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้มีผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหลายราย หลายยี่ห้อ ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย และแบรนด์ต่างประเทศ อาจทำให้บางคนไม่รู้ว่าควรเลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด


เพื่อให้คุณสามารถเลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าความเร็วสูงที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด เรามี 4 ปัจจัยในการเลือกรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาให้แล้ว ไปดูกันเลย!

1. กำลังมอเตอร์จะต้องเหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกกำลังมอเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเลือกซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพราะกำลังมอเตอร์จะส่งผลต่ออัตราความเร็วสูงสุด และอัตราการเร่งเครื่อง 

หากคุณต้องการซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปใช้งานทั่วไป เช่น เป็นรถจ่ายตลาด หรือขับขี่ไปส่งลูกที่โรงเรียน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อรถที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องการซื้อไปขับขี่บนท้องถนน ขับขี่ในระยะไกล ก็ควรที่จะเลือกรถที่มีมอเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน สามารถเร่งเครื่องแซง และหลบหลีกได้คล่องตัวกว่า

ตัวอย่างกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าและค่าความเร็วสูงสุดที่ทำได้โดยประมาณ​ 

• มอเตอร์ไฟฟ้า 350W 36V จะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 – 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• มอเตอร์ไฟฟ้า 500W 48V จะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 30 – 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• มอเตอร์ไฟฟ้า 1,000W 48V จะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 35 – 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• มอเตอร์ไฟฟ้า 1,500W 48V จะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 45 – 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

2. ระยะทางการวิ่งของรถต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ครอบคลุมการใช้งานหรือไม่

อีกสิ่งหนึ่งที่ใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้องให้ความใส่ใจก็คือระยะทางการวิ่งของรถต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หากไม่สามารถครอบคลุมต่อการใช้งานก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาได้ โดยจะต้องพิจารณาทั้งระยะทางต่อเนื่องที่ทำได้ และจุดชาร์จที่ตนเองสามารถนำรถไปชาร์จไฟได้ด้วย 

3. แบตเตอรี่ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

แบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไม่แพ้กับกำลังมอเตอร์ และราคาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเลย โดยจะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แบตเตอรี่กรดตะกั่ว เป็นแบตเตอรี่แบบเก่าที่มีราคาถูกกว่า และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ที่เก็บไฟฟ้าได้มากกว่า ชาร์จเร็วกว่า แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน

4. การบริการหลังการขายที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ต้องให้ความใส่ใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเลือกซื้อกับผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการหลังการขายที่ดี มีที่ตั้งของหน้าร้านชัดเจน เมื่อซื้อรถไปแล้วเกิดปัญหา ก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่มีระบบการทำงานเฉพาะ ไม่เหมาะที่จะนำไปซ่อมแซมกับร้านซ่อมจักรยานยนต์ทั่วไปนั่นเอง

รู้จักกับ AJ EV BIKE รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยคุณภาพสูง

หากคุณกำลังมองหารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดี ๆ สักรุ่นไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การขับรถไปทำงาน ขับรถไปจ่ายตลาด หรือขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ใช้ในการเดินทางระยะใกล้ ๆ ด้วยความเร็วที่กำลังดี ไม่เป็นอันตราย ในราคาที่สามารถจับต้องได้ และมีคุณภาพสูง AJ EV BIKE (เอเจ อีวี ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณที่สุด

ด้วยประสบการณ์การให้บริการมากกว่า 22 ปี พร้อมตัวเเทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ​ จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก AJ EV BIKE จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการขาย

แนะนำ 3 รุ่นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

สำหรับใครที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย เรามี 3 รุ่นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมจาก AJ EV BIKE มาแนะนำ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต จะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ไปดูกันเลย

Saber Tiger รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว ที่สุดของความเร็ว